:: รู้จักประวัติกันสักนิด กับ MAC OS X ::
แอปเปิล (Apple Inc.) หรือในชื่อเดิม แอปเปิลคอมพิวเตอร์ (Apple Computer Inc.) เป็นบริษัทในซิลิคอนวัลเลย์ ทำธุรกิจเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ แอปเปิลปฏิวัติคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะในยุค 70 ด้วยเครื่องแอปเปิลทู (Apple II) และแมคอินทอช (Macintosh) ในยุค 80 ปัจจุบันแอปเปิลมีชื่อเสียงด้านฮาร์ดแวร์ เช่น ไอแมค ไอพอด ไอโฟน และ ร้านขายเพลงออนไลน์ไอทูนส์ ประวัติโดยย่อ บริษัท Apple Computer Inc. ได้เกิดขึ้นจากการร่วมกันก่อตั้งของ สตีฟ จ็อบส์ และ สตีฟ วอซเนียก ทำการปฏิวัติธุรกิจคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะในยุค 70 โดยการนำเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่ประดิษฐ์จากโรงรถออกมาขาย ในชื่อ Apple I ที่ราคาจำหน่าย 666.66 เหรียญ ในจำนวนและระยะเวลาจำกัด ภายในปีถัดมาก็ได้ผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำยอดจำหน่ายสูงสุดให้กับบริษัท ณ ขณะนั้นคือ Apple II ซึ่งเป็นการเปิดศักราชใหม่แห่งวงการไมโครคอมพิวเตอร์ และเป็นการสร้างมาตรฐานให้กับไมโครคอมพิวเตอร์ที่เกิดมาตามหลังทั้งหมด (อย่างไรก็ดี ในช่วงเวลาดังกล่าว ทางบริษัทจะมุ่งเน้นการขายระบบปฏิบัติการมากกว่าที่จะขายผลิตภัณฑ์ไมโครคอมพิวเตอร์ เนื่องจากประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์จากบริษัท Intel และ IBM ทำงานได้ดีกว่า) ต่อมาในยุค 80 Apple Inc. ได้พัฒนาเครื่องคอมพิวเตอร์ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ส่งผลถึงยอดจำหน่ายที่สูงขึ้นตามลำดับ ภายใต้ชื่อผลิตภัณฑ์ Macintosh ซึ่งยังส่งผลให้ Apple ยังคงมีชื่อเสียงในด้านผลิตภัณฑ์มาจนถึงปัจจุบัน ด้วยมาตรฐานและเอกลักษณ์ทางการตลาดที่สอดคล้องกับปณิธานองค์กรที่ว่า “คิดอย่างแตกต่าง (Think Different)” ผลิตภัณฑ์ที่มักได้รับการกล่าวถึงและเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน อาจแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ ทั้งที่เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดพกพา (MacBook, MacBook Pro) และคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (iMac, PowerMac) ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ ได้แก่ Mac OSX (แมคโอเอสเท็น) อุปกรณ์ฟังเพลงขนาดพกพา ได้แก่ สายผลิตภัณฑ์ iPod และ iPhone อุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่น iSight, AirPort ฯลฯ โปรแกรมและบริการเสริมต่างๆ อาทิ iTunes เป็นต้น เกร็ดอื่นๆ ในภาพยนตร์เรื่อง อัจฉริยะปัญญานิ่ม (Forrest Gump) ฟอร์เรสต์ กัมป์ ถูกชักชวนโดยผู้หมวดแดน ให้เป็นหุ้นส่วนของบริษัทแอปเปิล แต่ตัวฟอร์เรสต์เองนึกว่าหมายถึงแอปเปิลที่เป็นผลไม้ซึ่งใครๆ หลายคนก็รู้จักและใช้ระบบปฏิบัติการ Windows ของ Microsoft กันอยู่แพร่หลาย จึงจะเคยอ่านของประวัติและความเป็นมา และการพัฒนาของแต่ละเวอร์ชั่น ซึ่งแน่นอนครับ
Mac OS X ก็เป็นอีกระบบปฏิบัติการหนึ่งที่เริ่มมีความนิยมและเป็นที่แพร่หลายกันมากขึ้น ซึ่ง
Mac OS X
นี้ได้มีพัฒนามาอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต่างจาก Windows เช่นกัน แต่ความสามารถของ
Mac OS X
นั้นไม่ได้มีดีแค่ความสวยงาม เท่านั้น แต่ยังมีความเสถียรที่สูงกว่า Windows อีกก็เป็นได้
จากที่กล่าวมานั้นเพื่อนๆ หลายคนก็เริ่มจะพอรู้เรื่องเกี่ยวกับ Mac OS X กันมาบ้างแล้ว ก็ด้วยเพราะว่าทาง
Apple ซึ่งเป็นชื่อที่แพร่หลายในยุโรปและบ้านเรา ได้เปิดตัวสินค้าตัวใหม่ที่มีชื่อว่า "
iPad" ที่กำลังกระหึ่มและเป็นที่ต้องตาต้องใจของชาว IT ในบ้านเราเป็นอย่างมาก หลังจากนั้นข่าวของ Apple ก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี
แต่ในที่นี้เราจะทิ้งเรื่องนั้นไว้ก่อน ซึ่งครั้งนี้เราจะมาพูดถึงประวัติในแต่ละการพัฒนาของเวอร์ชั่น ของระบบปฏิบัติการที่ชื่อว่า
Mac OS X กันครับ
ก่อนที่เราจะไปเริ่มติดตั้งระบบปฏิบัติการของ Mac นั้น เราก็ควรจะรู้ก่อนว่ามันมีเวอร์ชั่นอะไรบ้าง แล้วเราควรที่จะเลือกใช้ตัวใด ก็เหมือนๆ กับระบบปฏิบัติการของ Windows นั้นแหละครับ ที่มีระบบปฏิบัติการ Windows Nt, 98, Me, Xp, Vista จนมาถึงล่าสุดนี้คือSeven แต่มาวันนี้เราจะไม่พูดถึง Windows แต่เราจะมาพูดถึง Mac ถ้าพร้อมกันแล้วแล้วเรามาดูกันเลยดีกว่า
Mac OS X อ่านว่า แมคโอเอส เทน (ตัว X แทนหมายเลข 10 ของตัวเลขโรมัน) เป็นระบบปฏิบัติการ ของเครื่อง Macintosh ที่ออกแบบมาให้มีเสถียรภาพสูง ใช้งานง่ายหากสังเกตุก็จะพบว่าหน้าจองของ Mac OS X นั้นเกลี้ยงเกลา ไม่มีอะไรให้รกหูรกตา มีปุ่มหรือเครื่องมือเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น หน้าจอถึงดูสะอาด เรียบหรู และดูดีครับ
Mac OS X ได้ถูกพัฒนามาหลายเวอร์ชัน โดยเดือนมีนาคมปี 2001 บริษัท Apple ก็ได้เปิดตัว Mac OS X เวอร์ชันแรกออกมา คือ Mac Os X 10.0 โดยมีอีกชื่อหนึ่งว่า Cheetah (ชีต้าร์)
หลังจากที่ Mac OS X 10.0 หรือ Cheetah เวอร์ชันแรกที่เปิดตัวไปไม่นาน ทาง Apple ก็ไม่หยุดที่จะพัฒนาต่อ โดยเดือนกันยายนของปีเดียวกัน ได้ออกเวอร์ชันใหม่ คือ Mac OS X 10.1 หรืออีกชื่อว่า Puma (พรูม่า) ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่ประสบความสำเร็จและผลตอบรับเป็นอย่างดี
ในอีกหนึ่งปีต่อมา ได้เปิดตัว Mac OS X 10.2 หรือ Jaguar (จากัวร์) ก็ได้กำเนิดขึ้นในเดือน สิงหาคม ปี 2002 โดยเวอร์ชันนี้ได้มีการปรับปรุงคุณสมบัติหลายประการ เช่น สามารถเชื่อมต่อเครือข่ายของ Microsoft ได้ นำเสนอโปรแกรม iChat สำหรับการสื่อสารแบบออนไลน์ ใช้เทคโนโลยี Quartz Extreme สำหรับการแสดงผลบนหน้าจอ ฯลฯ โดยเวอร์ชั่นนี้ได้สร้างชื่อเสียงให้กับ Mac OS X เป็นอย่างมากเลยล่ะครับ
ในเดือนตุลาคม ปี 2003 ทาง Apple
ได้เปิดตัว Mac OS X 10.3
หรือ Panther (พาลเทียร์) ซึ่งได้ปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพหลายอย่าง เช่นการนำเสนอ Expose การปรับปรุง iChat การสื่อสารแบบเห็นหน้าตากันได้ รวมถึงโปรแกรมท่องเว็บอย่าง Safari ฯลฯ
และในเดือนเมษายน ปี 2005 เจ้า Mac OS X 10.4 หรือ Tiger (ไทเกอร์) ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นมาโดยมีความสามารถที่เพิ่มขึ้นกว่ารุ่นเดิมหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัว ระบบอัติโนมัติอย่าง Automator ปรับปรุง iChat รวมถึงการเปิดตัว VoiceOver ที่สามารถออกเสียงขณะใช้งานได้
ปี 2007 ได้พบกับระบบปฏิบัติการบน Macintosh ตัวใหม่ ซึ่งมีชื่อว่า Mac OS X Leopard (ลีโอแพท) โดยการพัฒนาหลายด้าน เช่น การย้อนเวลากลับไปกู้ข้อมูลด้วย Time Machine มีการจัดสรรหน้าจอโดยใช้ Spaces รวมถึงการปรับปรุง iChat ให้สามารถแชร์หน้าจอผ่านอินเทอร์เน็ต ฯลฯ คาดหมายกันว่า Leopard จะเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวที่สุดของ Windows Vista เลยทีเดียว แต่ผลตอบรับของ Windows Vista ก็มีเสียงตอบกลับมาค่อนข้างแย่ ซึ่งทำให้ Leopard สามารถกินขาดได้อย่างสบายๆ
ในปี 2009 เดือนกันยายน Mac OS X ก็ได้เปิดตัว ใหม่อีกครั้งหนึ่ง โดยเป็นตัวที่ 6 ก็คือ Mac OS X 10.6 หรืออีกชื่อว่า Snow Leopard ซึ่งมีรูปร่างคล้ายกับ Leopard แต่มีการพัฒนาการทำงานหลายอย่าง และคอมพิวเตอร์ เครื่อง Macintosh ก็ได้ใช้ Snow Leopard มาจนถึงทุกวันนี้
เครื่องแมคอินทอชรุ่นแรก แมคอินทอช 128Kแมคอินทอช (Macintosh) หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า แมค (Mac) เป็นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลของบริษัทแอปเปิล แมคอินทอชออกแบบโดย เจฟ ราสกิน
เครื่องแมครุ่นแรกสุดออกวางจำหน่ายในเดือนมกราคม ค.ศ. 1984 เป็นระบบคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่มีส่วนติดต่อผู้ใช้แบบกราฟิก ปัจจุบันผู้ออกแบบเครื่องแมคอินทอช คือ โจนาธาน ไอฟ์
แมคอินทอชรุ่นต่าง ๆ
Old World ROM
ค.ศ. 1984 Macintosh 128K, Macintosh 512K
ค.ศ. 1986 Macintosh Plus
ค.ศ. 1987 Macintosh II, Macintosh SE
ค.ศ. 1988 Macintosh IIx
ค.ศ. 1989 Macintosh SE/30, Macintosh IIcx, Macintosh IIci, Macintosh Portable
ค.ศ. 1990 Macintosh IIfx, Macintosh Classic, Macintosh IIsi, Macintosh LC series
ค.ศ. 1991 Macintosh Quadra, PowerBook
ค.ศ. 1992 Macintosh IIvx, PowerBook Duo
ค.ศ. 1993 Macintosh Centris, Macintosh Color Classic, Macintosh Performa, Macintosh TV
ค.ศ. 1994 Power Macintosh
ค.ศ. 1997 Power Macintosh G3, PowerBook G3, Twentieth Anniversary Macintosh
New World ROM
ค.ศ. 1998 iMac
ค.ศ. 1999 iBook, Power Macintosh G4
ค.ศ. 2000 Power Mac G4 Cube
ค.ศ. 2001 PowerBook G4
ค.ศ. 2002 eMac, iMac G4
ค.ศ. 2003 Xserve, Power Mac G5
ค.ศ. 2004 iMac G5
ค.ศ. 2005 Mac mini
เครื่อง Mac ที่ใช้ Intel Processor
ค.ศ. 2006 MacBook Pro, MacBook, iMac, Mac mini ที่ใช้ชิป Intel Core Duo
ค.ศ. 2006 MacPro, Xserve ที่ใช้ชิป Intel Xeon
ค.ศ. 2006 MacBook Pro, MacBook, iMac ที่ใช้ชิป Intel Core 2 Duo
ค.ศ. 2007 MacBook Pro ที่ใช้ชิป Intel Core 2 Duo และ Base บน Santa-Rosa Platform
แมคโอเอสเท็น
แมคโอเอสเท็น (Mac OS X) เป็นระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดในตระกูลแมคโอเอสสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์แมคอินทอช วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2001 ประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก คือ แกนกลาง ดาร์วิน (Darwin) ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมการทำงานแบบยูนิกซ์ที่เป็นโอเพนซอร์ส และส่วนติดต่อผู้ใช้แบบ อควา (Aqua) ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ของแอปเปิล คอมพิวเตอร์เอง
แมดโอเอสเท็นรุ่นต่างๆ
Mac OS X v10.0 "Cheetah"
วางจำหน่าย 24 มีนาคม ค.ศ. 2001 ได้รับคำชมในเรื่องความเสถียรและความสามารถ แต่มีปัญหาในด้านความเร็วในการทำงาน ราคาจำหน่าย 129$
Mac OS X v10.1 "Puma"
ออก 25 กันยายน ค.ศ. 2001 ไม่ได้วางจำหน่าย แต่แจกเป็นชุดอัพเกรดฟรีสำหรับ Cheetah เพิ่มความเร็วในการทำงาน และความสามารถอื่นๆ เช่น การเล่นดีวีดี
Mac OS X v10.2 "Jaguar"
วางจำหน่าย 24 สิงหาคม ค.ศ. 2002 เพิ่มความรวดเร็วในการทำงาน หน้าตาแบบใหม่ และความสามารถ เช่น
• สนับสนุนเครือข่ายที่เป็นไมโครซอฟท์วินโดวส์
• iChat - โปรแกรมแชททันใจ (instant messenger)
• Apple Rendezvous - การเชื่อมต่อเครือข่ายแบบอัตโนมัติ
• CUPS (The Common Unix Printing System) - ระบบการพิมพ์'กลาง'ของระบบยูนิกซ์
Mac OS X v10.3 "Panther"
วางจำหน่าย 24 ตุลาคม ค.ศ. 2003 พัฒนาความสามารถด้านอื่นเพิ่มขึ้น แต่หยุดสนับสนุนสถาปัตยกรรมแบบ G3 แล้ว ความสามารถเด่นมีดังนี้
• Exposé - การแสดงหน้าต่างทำงานทั้งหมดในหน้าจอเดียว ทำให้ผู้ใช้เปลี่ยนหน้าต่างทำงานได้อย่างรวดเร็ว
• Fast User Switching
• FileVault
• เพิ่มการสนับสนุนสถาปัตยกรรม G5
Mac OS X v10.4 "Tiger"
ภาพแสดงหน้าจอ Mac OS X v.10.4
กำหนดวางจำหน่าย 29 เมษายน ค.ศ. 2005 ความสามารถเด่นมีดังนี้
• Spotlight
• Dashboard
• QuickTime 7
• Automator
• Front row
Mac OS X v10.5 "Leopard"
ปัจจุบันวางจำหน่ายแล้ว ออกในฤดูใบไม้ผลิ ค.ศ. 2007 มีความสามารถเด่นที่ประกาศแล้วดังนี้
• Time Machine
• Spaces
• Core Animation
• Quicklook
• Stack
• Finder ใหม่ที่รวม Cover Flow view เข้าไป
• Full 64-bit Support
ก่อนที่จะเปลี่ยนใจใช้แมค เรามาดูเรื่องราวความเข้าใจผิดๆเกี่ยวกับแมคอินทอช
กันก่อน จริงๆเรื่องเข้าใจผิดมีเยอะเหมือนกัน แต่สำหรับบทความนี้เราจะพูดถึงเรื่องที่
เข้าใจผิดกันบ่อยๆ และเข้าใจผิดกันอยู่เรื่อยๆ มาดูกันว่าที่ผ่านมาผู้นมักเข้าใจผิด และคิด
ไปเองอย่างไรบ้าง
คงต้องออกตัวก่อนว่า เนื้อหาที่เราพูดถืงคือความเข้าใจผิด ไม่ใช่มาเปรียบเทียบ
ว่าระบบไหนดีกว่ากัน เพราะคอมพิวเตอร์ไม่ว่าจะเป็น Mac หรือWindow ต่างก็
ใช้งานและทำงานได้เหมือนกัน ซึ่งเราจะใช้ทั้งสองระบบตามความเหมาะสม และความ
สะดวกของงานแต่ละประเภท เรามาดูกันเลยว่าแมคถูกเข้าใจผิดบ่อยๆในเรื่องอะไรบ้าง
ใช้กับงานสิ่งพิมพ์และกราฟิกเท่านั้น
ถือเป็นความเข้าใจผิด ที่สั่งสมกันมานานตั้งแต่ยุคแรกของแมคกันเลยทีเดียว พอ
พูดถึงแมคขึ้นมาเป็นต้องนึกว่าแมคเหมาะสำหรับงานแบบนี้ทุกที ซึ่งจริงๆแล้วข้อนี้ทั้ง
จริงและไม่จริง ต้นเรื่องนั้นย้อนกลับไปถึง 30 ปีในยุคแรกๆของแมคกันเลยทีเดียว ด้วย
การทำงานแบบกราฟิก ฟอนต์ที่สวยงาม และโปรแกรมต่างๆด้านสิ่งพิมพ์และกราฟิก ทำ
ให้แมคโดดเด่นในงานประเภทนี้มาก และยังคงเป็นเช่นนั้นมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งถ้าจะ
เปรียบเทียบก็พูดได้ว่าสูสีกัน ใช้แทนกันได้
แต่แมคก็เหมือนคอมพิวเตอร์ทั่วไป ใช้ทำงานได้เหมือนๆกัน ทั้งการพิมพ์งาน
ตาราง สเปรดชีต เล่นเกมส์ ต่อเนต ตัดต่อวีดีโอ จัดการฐานข้อมูล ข้อมูลต่างๆ ไม่ใช่
เพียงสิ่งพิมพ์และกราฟิกเท่านั้น
ไม่รองรับภาษาไทย ต้องไปซื้อฮาร์ดล็อคนะจะบอกให้
จริงๆแล้วแมครองรับภาษาไทยได้ในตัว ซื้อที่ไหนในโลกก็ใช้ภาษาไทยได้ ไม่
ต้องไปซื้ออะไรมาเพิ่มก็พิมพ์ อ่าน เปิดเว็บไทยได้
อย่างไรก็ตามในงานกราฟิกเช่น Photoshop ก็ยังไม่รองรับภาษาไทยอย่าง
สมบูรณ์เช่นเดียวกับเวอร์ชั่นบนพีซี ซึ่งเป็นข้อจำกัดของตัวโปรแกรมเอง ต้องใช้ฮาร์ด
ล็อคมาช่วย เพื่อแก้ปัญหา เช่น สระลอย แต่เร็วนี้ Adobe จะเพิ่มความสามารถ
ทางด้านภาษาไทยเข้าไปแล้ว โดยสามารถใช้ได้ในต้วโปรแกรมกราฟิกโดยตรง ซึ่ง
ผู้พัฒนาก็เป็นคนไทยของเรานี่เอง
แพงจะตายซื้อไม่ลง
จริงๆแล้วอย่าเพิ่งเห็นราคาก็ตัดสินว่าแพง ที่ถูกต้อง คือ ควรจะเทียบสเปคเทียบ
ความสามารถกันก่อน ราคาที่เราคิดว่าแมคแสนจะแพงน่ะ เท่ากับพีซีรุ่นท็อปกันเลยนะ
ไม่ว่าจะเป็นเมนบอร์ด การ์ดจอ ไดร์ฟ ฯลฯ เผลอๆได้เครื่องพีซีในเซิร์ฟเวอร์กันเลย
ทีเดียว จะมั่วเอาไปเทียบกับพีซีประกอบขายกันหมื่นต้นๆมันเทียบกันไม่ได้
นอกจากนี้แมคยังขายพร้อมโอเอส และโปรแกรมเพิ่มเติม เช่น iLife ในขณะที่
ราคาของพีซีส่วนใหญ่ที่ขายยังไม่รวมซอร์ฟแวร์
อีกอย่างที่เห็นๆ คือ การออกแบบ คุณคงไม่ปฏิเสธว่าหน้าตาเครื่องของแมคดี
ไซด์มาได้สวย และมีเสน่ห์มาก ต่างจากเคสพีซีสารพัดแบบที่เห็นกันทั่วไป ซึ่งการ
ออกแบบนี้ก็เป็นมูลค่าของตัวสินค้าเช่นกันนะ ทุกวันนี้การออกแบบจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ
อย่างยิ่งในธุรกิจทุกประเภทในปัจจุบัน หันไปทางไหนก็จะเห็นแต่งานออกแบบ
อุปกรณ์ใช้ร่วมกับพีซีไม่ได้ มันคนละแบบกัน ระวังเจ๊งเอานะ
ทุกวันนี้อุปกรณ์ส่วนใหญ่ใช้ร่วมกันได้หมด ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดดิสก์ เมมโมรี จอ
เมาส์ คีย์บอร์ด ไดร์ฟซีดี ดีวีดีทั้งหลาย ยิ่งอุปกรณ์ USB ทั้งหลายยิ่งไม่ต้องห่วง เพราะ
ชื่อก็บอกแล้วว่า Universal Serial Bus ไม่ว่าจะเป็นแร็คสำหรับฮาร์ดดิสก์
แฟลชไดร์ฟ การ์ดรีดเดอร์ กล้องดิจิทัล เว็บแคม เมาส์ คีย์บอร์ด ยูเอสบีดองเกิล ฯลฯ
สำหรับอุปกรณ์บางอย่างที่ต้องใช้ไดรืฟเวอร์ เช่น พริ้นเตอร์ หรือสแกนเนอร์
ยี่ห้อชั้นนำต่างๆก็มีไดร์ฟเวอร์เตรียมมาให้อยู่แล้ว เพียงแต่ตรวจให้เรียบร้อยก่อนซื้อ
เท่านั้นว่ามีไดร์ฟเวอร์ที่ใช้ร่วมกันได้
นอกจากนี้แมคก็สามารถต่อเข้ากับวงแลนที่ใช้พีซีได้ สามารถมองเห็นไฟล์ แชร์
ไฟล์ และแชร์เครื่องพิมพ์ได้ตามปกติ ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมอะไรเพิ่มเติมใช้ยากไม่เห็นน่าใช้เลย
จริงๆแล้วไม่ได่ใช้ยากเลย ทุกอย่างต้องมีก้าวแรก มีการเรียนรู้ และเพิ่มพูนทักษะ
ประสบการณ์ ไม่ว่าจะใช้คอมพิวเตอร์ระบบไหน ก็ตองมีวันแรกเหมือนกัน และวัน
ต่อๆไปนั่นเองที่จะเป็นตัวสั่งสมความรู้ ยิ่งถ้าเคยใช้ระบบใดระบบหนึ่งมาก่อน การจะ
เข้าไปอีกระบบก็จะง่ายยิ่งขึ้นโปรแกรมมีน้อยจะตาย หาก็ยาก
จริงๆแล้วโปรแกรมบนระบบแมคก็มีเยอะพอและครอบคลุมการทำงานในทุกๆ
ด้านไม่ต่างไปจากพีซีเลย อยากได้แบบไหนก็มีให้ใช้ ลองเข้าไปดูเว็บไซต์จำหน่าย
แล้ว
Mac Pro ใหม่มาพร้อมพลังประมวลผลที่มากกว่า ประสิทธิภาพกราฟฟิคที่เหนือกว่า
และวิธีเก็บข้อมูลที่หลากหลายกว่า เพราะนี่คือคอมพิวเตอร์มหาอำนาจเครื่องล่าสุดของโลก
โครงสร้างที่เร็วกว่า
เลือกจาก 4, 6, 8 หรือ 12 core
Mac Pro มาพร้อมความล้ำหน้าของสองโปรเซสเซอร์จาก Intel ที่คุณเลือกได้ระหว่าง Quad-Core Intel Xeon “Nehalem” ที่มาในแบบ quad-core โปรเซสเซอร์เดี่ยวความเร็วสูงสุด 3.2GHz, หรือจะเลือกใช้ความเร็วและพลังที่มากขึ้นอีกกับซีรี่ส์ “Westmere” โปรเซสเซอร์รุ่นถัดไปของ Intel ที่สร้างจากพื้นฐานของเทคโนโลยีล่าสุดแบบ 32-nm process โดย ”Westmere” มีให้เลือกจากแบบ quad-core หรือ 6-core ซึ่ง Mac Pro ใส่ได้ทั้งแบบโปรเซสเซอร์เดี่ยวและคู่ คุณจึงเลือก Mac Pro ได้ตั้งแต่แบบ 6-core ที่ 3.33GHz, 8-core ที่ 2.4GHz, หรือแบบสูงสุด 12-core ที่ 2.93GHz
ความเหนือกว่าของ single-die
โปรเซสเซอร์ quad-core ส่วนใหญ่มักจะแยก die เป็น 2 ตัว ซึ่งหมายความว่าข้อมูลที่อยู่ใน cache จะต้องเดินทางออกนอกตัวชิปเพื่อที่จะไปถึงอีก core ที่อยู่ใน die อีกตัว ซึ่งเป็นวิธีการเข้าหาข้อมูลที่ช้า แต่โปรเซสเซอร์แบบใหม่ Quad-Core และ 6-Core Intel Xeon ที่ใช้ die เดียว และสถาปัตยกรรมแบบ 64-bit ทำให้ L3 cache ขนาด 8MB และ 12MB พร้อมใช้อยู่เสมอสำหรับทุกๆ core ผลลัพธ์คือการเข้าถึงข้อมูลใน cache ที่เร็วกว่าและประสิทธิภาพของโปรแกรมที่ีดีกว่า ประกอบกับความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีอื่นๆที่ทำให้ Mac Pro เร็วกว่ารุ่นเดิมได้ถึง 1.5 เท่า1
RAM ที่ทั้งใหญ่ และเร็ว
RAM มักจะต่อกับโปรเซสเซอร์โดยผ่าน I/O controller ที่แยกต่างหาก แต่สำหรับ Intel Xeon “Nehalem” และ “Westmere” โปรเซสเซอร์จะมีตัวควบคุม RAM รวมอยู่ด้วย ทำให้สามารถต่อ RAM โดยตรงกับโปรเซสเซอร์ได้เลย โปรเซสเซอร์ของ Mac Pro จึงเข้าถึงข้อมูลใน RAM ได้เร็วขึ้นและมี memory latency ที่น้อยลง
ตัวควบคุม RAM ที่รวมอยู่ในโปรเซสเซอร์ กับความเร็วของ DDR3 ECC SDRAM ที่ความเร็ว 1066MHz หรือ 1333MHz ทำให้ Mac Pro มี memory bandwidth มากกว่ารุ่นเดิม และ bandwidth ที่มากกว่า หมายถึงข้อมูลที่ไหลเข้าไปในโปรเซสเซอร์ได้เร็วกว่า ทำให้โปรเซสเซอร์ไม่ต้องเสียเวลารอข้อมูลมาถึง และใช้เวลาไปกับการประมวลผลได้มากขึ้น และ Error Correction Code (ECC) จะคอยแก้ไขข้อมูล single-bit และตรวจสอบข้อมูล multiple-bit ที่ผิดพลาดโดยอัตโนมัติ ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากในการประมวลผลช่วงคับขัน ในสถานภาพของคอมพิวเตอร์ที่ใช้การประมวลอย่างเข้มข้น
พลังที่จำเป็น เมื่อที่จำเป็น
Mac Pro มาพร้อมความสามารถ Turbo Boost, เทคโนโลยีด้านการจัดการประสิทธิภาพแบบ dynamic ที่เพิ่ม clock speed โดยอัตโนมัติตามปริมาณการประมวลผล ถ้ากำลังใช้โปรแกรมที่ไม่ต้องใช้ทุกๆ core, Turbo Boost ก็จะปิด core ที่ไม่ใช้และเพิ่ม clock speed ให้กับ core ที่กำลังใช้อยู่ได้ถึง 3.33GHz ใน Mac Pro แบบ 12-core และ 3.6GHz ในเครื่องแบบ 6-core
สูงสุด 24 virtual core
โปรเซสเซอร์ Intel Xeon รองรับ Hyper-Threading, ที่สามารถ run สอง thread ได้พร้อมๆกันในแต่ละ core ทำให้ Mac Pro แบบ 12 core มีได้ถึง 24 virtual core ที่มองเห็นได้ใน Mac OS X, ประสิทธิภาพที่ได้ก็จะมากขึ้นเพราะ Hyper-Threading ทำให้โปรเซสเซอร์ใช้ resource ที่มีอยู่ในตัวได้อย่างเต็มศักยภาพมากขึ้น
ทางที่เร็วที่สุด
อีกวิธีหนึ่งที่ Mac Pro ใช้เพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบโดยรวมคือการเชื่อมต่อสองทิศทางที่เรียกว่า QuickPath Interconnect ที่ทำให้โปรเซสเซอร์ Intel Xeon สามารถเข้าถึงดิสก์ต่างๆ, I/O, และ subsystem อื่นๆ ได้อย่างรวดเร็ว และใน Mac Pro ที่ใช้โปรเซสเซอร์คู่่ จะมี QuickPath Interconnect ระหว่างโปรเซสเซอร์ทั้ง 2 ตัว ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมต่อโดยตรง ทำให้การส่งข้อมูลระหว่างโปรเซสเซอร์ไม่ต้องวิ่งผ่าน I/O hub
ความทรงพลังที่ประหยัด
Mac Pro ผ่านการรับรองการประหยัดพลังงานระดับ ENERGY STAR ที่เป็นมาตรฐานอันเข้มงวดจาก EPA ซึ่ง ENERGY STAR 5.0 ได้กำหนดประสิทธิภาพการส่งพลังงานให้สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และกำหนดการใช้พลังงานโดยทั่วไปของคอมพิวเตอร์แบบรายปีให้ต่ำลงอย่างมาก2
